ทริปนี้ ต่อเนื่องจากที่เราไปมีทติ้งคาร์คลับกันแถวๆ พัทยา
หลังจากนั้น เราก็เข้าพักยังที่พักที่เราจองเอาไว้
นั่นคือ ประภาคารรีสอร์ท
กว่าจะเราไปถึงก็ค่ำมากแล้ว , ส่วนเช้าวันรุ่งขึ้น เราก็ไม่มีเวลาให้โอ้เอ้ได้มากนัก
กว่าจะเราไปถึงก็ค่ำมากแล้ว , ส่วนเช้าวันรุ่งขึ้น เราก็ไม่มีเวลาให้โอ้เอ้ได้มากนัก
เราจึงได้สำรวจบริเวณรอบๆที่พักเพียงเล็กน้อย
มองจากหน้าต่างห้องพัก ก็จะเห็นวิวทะเลอยู่บ้างเหมือนกัน
มองจากหน้าต่างห้องพัก ก็จะเห็นวิวทะเลอยู่บ้างเหมือนกัน
เนื่องจากเมื่อคืนมีฝนตกอย่างหนัก เช้านี้บริเวณรอบๆ รีสอร์ทก็เลย ฉ่ำแฉะ ไปสักหน่อย
รีสอร์ทนี้อยู่ติดทะเล ... แต่น่าเสียดายที่ ไม่สามารถเดินลงไปเล่นน้ำทะเลได้เนื่องจากบริเวณนั้น ไม่มีหน้าหาด มีเพียงแนวหิน และก็มีกองขยะ ซึ่งคาดว่าคงพัดลอยมากับน้ำทะเล มาเกยกันอยู่ตรงแนวหินของรีสอร์ท
รีสอร์ทนี้อยู่ติดทะเล ... แต่น่าเสียดายที่ ไม่สามารถเดินลงไปเล่นน้ำทะเลได้เนื่องจากบริเวณนั้น ไม่มีหน้าหาด มีเพียงแนวหิน และก็มีกองขยะ ซึ่งคาดว่าคงพัดลอยมากับน้ำทะเล มาเกยกันอยู่ตรงแนวหินของรีสอร์ท
ที่นี่มีเครื่องเล่นกลางแจ้ง สำหรับเด็กๆ ด้วย...เห็นแล้วนึกถึง สนามเด็กเล่นตามโรงเรียนสมัยก่อน
นั่นๆๆ... สัญลักษณ์ของรีสอร์ท แห่งนี้ "ประภาคาร"
หลังจากเราเก็บกระเป๋าเพื่อเช็คเอ๊าท์เรียบร้อย ....
ก็รีบมุ่งหน้าไปยัง หาดน้ำใส
ด้วยหวังใจว่าจะไปกินมื้อเช้าที่นั่น
ด้วยหวังใจว่าจะไปกินมื้อเช้าที่นั่น
แต่เราคงจะไปถึงเช้าเกินไป ร้านอาหารที่บริเวณหาด เค้ายังไม่เปิดกัน
จะมีก็เพียงร้านส้มตำไก่ย่าง ริมหาดเจ้านึงเท่านั้น...
จะมีก็เพียงร้านส้มตำไก่ย่าง ริมหาดเจ้านึงเท่านั้น...
แต่เช้านี้ เราไม่มีเวลาเหลือเฟือพอที่จะละเลียดส้มตำพร้อมชมทะเลได้....
เราจึงตัดสินใจออกไปหามื้อเช้ากันระหว่างทางต่อไป
จากนั้นเราก็มาถึงยังจุดหมายของทริปฉบับนี้
นั่นก็คือ ...เรือหลวงจักรีนฤเบศร
หลังจากจอดรถบริเวณหน้าโกดังเสร็จแล้ว เราก็ต้องผ่านโกดังเข้าไปก่อน....
แล้วจึงเข้าไปยังด้านหลัง ซึ่งจะเป็นที่จอดของเรือ
ถึงแล้ว.... เรือลำใหญ่มากกก.... ถ่ายเก็บมาได้แค่ครึ่งลำเอง , เรือลำนี้มีต้นกำเนิดจากประเทศสเปนเชียวนะ ( *ต่อขึ้นที่: อู่ต่อเรือบาซาน เมืองเฟร์รอล ประเทศสเปน)
ก่อนที่เราจะไปขึ้นเรือกัน ...
ก็จะต้องฝากสิ่งของ/สัมภาระที่ติดตัวมา เอาไว้ตรงป้อมทหารที่อยู่ตรงทางขึ้นเรือ ให้เรียบร้อยเสียก่อน ....
กระเป๋า ไม่ว่าจะใบเล็ก / ใบใหญ่ ...กระเป๋าแบรนด์เนม หรือกระเป๋าโนเนม ก็จะต้องฝากพี่ๆ/น้าๆ/ลุงๆ ทหารเค้าไว้ให้หมด ,
ของที่เราสามารถนำติดตัวไปได้ ก็จะมีแค่ พวกกระเป๋าสตางค์ใบเล็กๆ (ขนาดที่จะใส่กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง ได้เท่านั้น) , โทรศัพท์มือถือ, กล้องต่างๆ
ฝากสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ก็เดินขึ้นเรือกันได้เลย.....
ภายในเรือบริเวณชั้นล่าง
...กว้างใหญ่ไพศาลอลังการงานสร้างมากๆ.....
ปลอดโปร่ง โล่งสบาย มีลมพัดผ่านให้คลายร้อน
มาถึงก็แวะดูสินค้าที่ระลึกที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับทางเข้าออกกันก่อนเลย.....
มีทั้งปากกา ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด สารพัด stationary ทั้งหลาย
และก็พวกพวงกุญแจ กับ ถุงผ้ารูปแบบต่างๆ
จากนั้นก็ขึ้นไปยังดาดฟ้าของเรือกัน..... วิวสวยมาก
(และยังโชคดีมาก เพราะตอนที่เราไป ไม่มีแดดเลย และอากาศก็ไม่ร้อน)
ลานดาดฟ้าเรือ อันกว้างใหญ่ ... วิ่งไปกลับรอบนึงก็....ระยะทางประมาณแค่เกือบรอบสนามฟุตบอลเท่านั้นเอง ( *ความยาวตลอดลำเรือ 182.6 เมตร )
มองไปยังเรือที่จอดอยู่ใกล้ๆ กัน......
จริงๆแล้ว ที่ด้านล่างของเรือ ชั้นที่เราเข้ามา ...
นอกจากมีมุมขายสินค้าที่ระลึกแล้ว ก็มีอีกด้านนึงที่จะมีการฉายวีดีทัศน์ เกี่ยวกับความเป็นมาของเรือให้ได้นั่งชมกัน
เรามัวแต่เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปเล่นบนดาดฟ้าเรือ
ก็เลยไม่เหลือเวลาให้สำรวจชั้นล่างของเรือกันซะแล้ว.....
มองจากบนเรือลงไป เห็นร้านค้าชัดแจ่มเลยทีเดียว......
ปิดท้ายกันด้วยรูปด้านข้างของเรือ ซึ่งถ่ายจากบริเวณที่จอดรถ ด้านหน้าโกดังนั่นเอง
( * ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วน จาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%A4%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A8%E0%B8%A3 )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น