วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วันแรกที่ไปถึง 8 พค.52

วันแรกที่ไปถึง ก็นั่งรถไฟจากสนามบิน เข้าสู่ตัวเมือง แล้วก็ต่อรถไฟฟ้าใต้ดินอีกที
ช่วงที่ไปถึง เป็นช่วงเช้า เลยเป็นเวลาเร่งด่วนสำหรับที่นั่นเช่นกัน ก็เลยต้องเบียดเสียดกะผู้คนในรถใต้ดิน
พอเก็บกระเป๋าที่บ้านจิอันแล้ว ก็ไปไชน่าทาวน์กันก่อนเลย เพราะฉันอยากจะเห็นเหลือเกินว่าเป็นไง
และก็หวังว่าจะมีอะไรเอเชียๆ ให้ได้ลองกินมั่ง แต่ปรากฏว่า เป็นย่านค้าขายของคนเอเชียก็จริง แต่เงียบๆ หงอยๆ ยังไงชอบกลแล้วก็เห็นแต่ร้านเสื้อผ้า ซึ่งเป็นเสื้อผ้าโหลๆ จะมีร้านของชำไม่กี่ร้านเท่านั้น ที่ขายพวกวัตถุดิบจากเอเชีย
เช่น มาม่า คนอร์ กะทิสำเร็จรูป ชาจีน เครื่องปรุงไทย ๆ น้ำปลา ซีอิ๊ว เครื่องปรุงญี่ปุ่น ซีอิ๊ว โชหยุ วาซาบิ
อุปกรณ์ทำอาหารญี่ปุ่นบางอย่าง ฯลฯ แต่มีเพียงไม่กี่ร้านเท่านั้นเอง
หลังจากนั้นก็เดินไปยังปราสาทเก่า Castello Sforzesco คาสเตลโล่ สฟอร์เซสโก้
แล้วก็เดินไปยัง โบถส์ประจำเมือง แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองนี้ Duomo di milano หรือที่เรียกกันว่า ดูโอโม่
ไปถึง ก็ไปไชน่าทาวน์กันก่อน ซึ่ง ถนนสายนี้แหละ (ถนนเปาโล ซาปรี้)คือ ย่านไชน่าทาวน์
อันป้ายหน้าร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง ถ้าเป็นแฟนบอลอิตาลีคงพอคุ้นหน้า พรีเซนเตอร์คนนี้
เพราะเป็นกองหลังทีมชาติอิตาลี เปาโล คันนาวาโร่ นั่นเอง

บนรถไฟ airport link จากสนามบิน มัลเปนซ่าของมิลาน เข้าสู่ตัวเมือง
ตอนขึ้นก็คนโล่งๆ พอไปได้สักสองสามสถานีก็คนแน่นเลย เพราะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ( 8.30 น.)


บรรยากาศถนนย่านไชน่าทาวน์ ช่างเงียบเชียบเรียบร้อยไม่เหมือนไชน่าทาวน์บ้านเราเลย
ไม่มีชายสี่หมี่เกี๊ยว หรือ ติ่มซำให้ได้เห็นเลยอ่ะ
ตู้ไอติมหลากรสมากๆ มีแบบนี้ ทั่วทุกมุมเมือง ไม่ต้องมีเฟรนไชน์หรือยี่ห้อใดๆทั้งสิ้น
อร่อยเหมือนกันทุกร้าน ราคาก็ประมาณเดียวกัน แต่ร้านไหนตักให้มาก ให้น้อยเท่านั้นเอง ....555

แผงขายของที่ระลึกแบบนี้ก็มีให้เห็นได้ทั่วไปในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว
ขายทั้งของที่ระลึกและหนังสือพิมพ์นิตยสารต่างๆ

อันนี้ที่ไหนไม่รู้ เดินผ่าน เลยถ่ายมา


แผงขายดอกไม้ ก็มีให้เห็นประปราย อยู่เมืองหนาว ดอกไม้ก็สวยสดงดงามได้นาน แม้จะมีแดดแบบนี้ก็ตาม

รถขายของหน้าปราสาทสฟอร์เซสโก้ เต็มไปด้วยเด็ก ๆ ที่สงสัยจะมาทัศนศึกษา
เพราะมากันเป็นฝูงเลยน่ะ


เมื่อเข้ามาในปราสาทเก่า ก็จะมีลานกว้าง ก็มีคนมาตั้งวงเตะบอลเหมือนกัน
แต่ส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นกันมากกว่า

ภาพบรรยากาศของปราสาทเก่า

หน้าปราสาทสฟอร์เซสโก้ จะมีน้ำพุสระใหญ่ ตั้งอยู่ แต่น้ำพุก็จะมีแค่บางจังหวะเวลาเท่านั้นนะ

รถขายขนมปัง จอดขายอยู่ย่านถนนคนเดิน ระหว่างดูโอโม่ กะ ปราสาทสฟอร์เซสโก้
แต่ไม่ได้ลองซื้อกิน เพราะไม่หิว และ พี่สาวบอกว่าไม่อร่อยเท่าไหร่

ย่านเดินเล่นท่องเที่ยว ของทั้งนักท่องเที่ยว ซึ่งในโดมนี้ จะมีร้านค้าแบรนด์หรูมากมาย
โบถส์อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เรียก ดูโอโม่

ช้อป ขายเครื่องกีฬา (ของแท้) ก็มีให้เห็นอยู่หลายร้านในย่านแหล่งช้อปปิ้งบนถนนหลายสาย

ไอติมแบบนี้ที่พลาดไม่ได้ เค้าเรียก Gelato อร่อยมากๆ กินกันทุกวัน
โคนนึง ถ้ารสเดียวก็ 1.5 ยูโร ส่วนถ้าสองรส ก็ 2.0-2.5 ยูโร น่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: